แนวข้อสอบ พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
1. พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ได้ยกเลิก พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ. ใดบ้าง
ก. พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493
ข. พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง (ฉบับที่ 1)
ค. พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497
ง. ข้อ ข ผิด
ตอบ ง. ข้อ ข ผิด
มาตรา 3 ให้ยกเลิก
(1) พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493
(2) พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497
บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้หรือซึ่งขัดหรือแย้ง
กับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
2. ข้อใดคือคนต่างด้าว
ก. บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
ข. บุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย
ค. บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
ง. บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลซึ่งได้เข้ามาในไทย
ตอบ ก. บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
คนต่างด้าว หมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
3. ข้อใดคือเจ้าของพาหะนะ
ก. ผู้ครอบครองพาหะนะ ค. ตัวแทนผู้เช่าพาหะนะ
ข. ผู้เช่าพาหะนะ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
เจ้าของพาหนะ หมายความรวมถึงตัวแทนเจ้าของ ผู้เช่า ตัวแทนผู้เช่า ผู้ครอบครอง หรือตัวแทนผู้ครอบครองพาหนะ แล้วแต่กรณี
4. ข้อใดคือคนโดยสาร
ก. ผู้ที่เดินทางโดยพาหนะ ค. ผู้ควบคุมพาหนะ
ข. คนประจำพาหนะ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ก. ผู้ที่เดินทางโดยพาหนะ
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
คนโดยสาร หมายความว่า ผู้ซึ่งเดินทางโดยพาหนะไม่ว่าในกรณีใด ๆ นอกจากผู้ควบคุมพาหนะและคนประจำพาหนะ
5. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับคนเข้าเมือง
ก. คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักร
ข. คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรและอยู่นอกราชอาณาจักร
ค. บุคคลและนิติบุคคลที่เข้ามาในราชอาณาจักร
ง. คนไร้สัญชาติที่เข้ามาในราชอาณาจักร
ตอบ ก. คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักร
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
คนเข้าเมือง หมายความว่า คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักร
6. ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 อธิบดีหมายถึงอะไร
ก. อธิบดีตรวจคนเข้าเมือง ค. อธิบดีกรมตำรวจ
ข. อธิบดีกรมการปกครอง ง. อธิบดีกรมสรรพากร
ตอบ ค. อธิบดีกรมตำรวจ
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
อธิบดี หมายความว่า อธิบดีกรมตำรวจ
7. ใครคือผู้รักษาการตาม พรบ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. อธิบดีกรมการปกครอง
ง. อธิบดีกรมตำรวจ
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
8. ใครมีอำนาจในการแต่งตั้งเจ้าพนักงาน
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. อธิบดีกรมการปกครอง
ง. อธิบดีกรมตำรวจ
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่และออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมกับค่าทำการและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ไม่เกินอัตราตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ และกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้
9. ใครเป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ค. ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
ง. อธิบดีกรมอัยการ
ตอบ ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
มาตรา 6 ให้มีคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองคณะหนึ่งประกอบด้วยปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศอธิบดีกรมตำรวจ อธิบดีกรมแรงงาน อธิบดีกรมอัยการเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ และผู้บังคับการกองตรวจคนเข้าเมือง เป็นกรรมการและเลขานุการ
10. ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุมต้องดำเนินการอย่างไร
ก. ให้อธิบดีกรมตำรวจเป็นประธาน
ข. ให้อธิบดีกรมอัยการเป็นประธาน
ค. ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
ง. ยกเลิกการประชุมรอดำเนินการประชุมต่อเมื่อประธานกรรมการมา
ตอบ ค. ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
มาตรา 8 วรรคสอง
ในการประชุมของคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุม ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
11. บุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรจะต้องเดินทางเข้ามาหรือออกไปตามช่องทางใด
ก. ด่านตรวจคนเข้าเมือง ค. เขตท่าสถานี
ข. ท้องที่ที่รัฐมนตรีกำหนด ง . ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 11 บุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรจะต้องเดินทางเข้ามาหรือออกไปตามช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานี หรือท้องที่และตามกำหนดเวลา ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีจะได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
12. คนต่างด้าวซึ่งมีลักษณะอย่างใดที่ต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร
ก. ไม่มีปัจจัยในการยังชีพตามควรแก่กรณีที่เข้ามาในราชอาณาจักร
ข. วิกลจริตหรือมีโรคอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ค. ยังมิได้ปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ หรือฉีดวัคซีน หรือปฏิบัติการอย่างอื่นตามวิชาการแพทย์เพื่อป้องกันโรคติดต่อตามที่กฎหมายบัญญัติ
ง. ถกทุกข้อ
ตอบ ง. ถกทุกข้อ
มาตรา 12 ห้ามมิให้คนต่างด้าวซึ่งมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้เข้ามาในราชอาณาจักร
(1)การตรวจลงตราตาม (1) ให้เสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(2) ไม่มีปัจจัยในการยังชีพตามควรแก่กรณีที่เข้ามาในราชอาณาจักร
(3) เข้ามาเพื่อมีอาชีพเป็นกรรมกร หรือเข้ามาเพื่อรับจ้างทำงานด้วยกำลังกาย โดยไม่ได้อาศัยวิชาความรู้หรือการฝึกทางวิชาการ หรือเข้ามาเพื่อทำงานอื่นอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว
(4) วิกลจริตหรือมีโรคอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(5) ยังมิได้ปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ หรือฉีดวัคซีน หรือปฏิบัติการอย่างอื่นตามวิชาการแพทย์เพื่อป้องกันโรคติดต่อตามที่กฎหมายบัญญัติและไม่ยอมให้แพทย์ตรวจคนเข้าเมืองกระทำการเช่นว่านั้น
(6) เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาของศาลไทยหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดลหุโทษหรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดที่ยกเว้นไว้ในกฎกระทรวง
(7) มีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชนหรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ
(8) มีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเข้ามาเพื่อการค้าประเวณี การค้าหญิง หรือเด็ก การค้ายาเสพติดให้โทษ การลักลอบหนีภาษีศุลกากร หรือเพื่อประกอบกิจการอื่นที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
(9) ไม่มีเงินติดตัวหรือไม่มีประกันตามที่รัฐมนตรีประกาศตามมาตรา 14
(10) รัฐมนตรีไม่อนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 16
(11) ถูกรัฐบาลไทยหรือรัฐบาลต่างประเทศเนรเทศ หรือถูกเพิกถอนสิทธิการอยู่อาศัยในราชอาณาจักรหรือในต่างประเทศมาแล้ว หรือถูกพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร โดยรัฐบาลไทยเสียค่าใช้จ่ายทั้งนี้ เว้นแต่รัฐมนตรีได้พิจารณายกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายการตรวจวินิจฉัยโรค ร่างกายหรือจิต ตลอดจนการปฏิบัติการเพื่อป้องกันโรคติดต่อ ให้ใช้แพทย์ตรวจคนเข้าเมือง
13. ข้อใดไม่ใช่คนต่างด้าวที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง
ก. คนโดยสารรถไฟผ่านแดนซึ่งถือตั๋วโดยสารทอดเดียวตลอดเพียงแต่ผ่านอาณาเขตประเทศไทย
ข. คนสัญชาติของประเทศที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศไทยเดินทางข้ามพรมแดนไปมาชั่วคราว
ค. มีเงินติดตัวหรือมีประกันตามที่รัฐมนตรีประกาศ
ง. ผู้ควบคุมพาหนะและคนประจำพาหนะทางน้ำหรือทางอากาศซึ่งเพียงแต่แวะเข้ามายังท่า
ตอบ ค. มีเงินติดตัวหรือมีประกันตามที่รัฐมนตรีประกาศ
มาตรา 13 คนต่างด้าวดังต่อไปนี้ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องมีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง
(1) ผู้ควบคุมพาหนะและคนประจำพาหนะทางน้ำหรือทางอากาศซึ่งเพียงแต่แวะเข้ามายังท่า สถานี หรือท้องที่ ในราชอาณาจักรแล้วกลับออกไปเพื่อประโยชน์ในการควบคุมบุคคลดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่จะออกหนังสือสำคัญตามแบบที่กำหนดในกฎกระทรวงเพื่อให้ถือไว้ก็ได้
(2) คนสัญชาติของประเทศที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศไทยเดินทางข้ามพรมแดนไปมาชั่วคราว โดยปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศนั้น
(3) คนโดยสารรถไฟผ่านแดนซึ่งถือตั๋วโดยสารทอดเดียวตลอดเพียงแต่ผ่านอาณาเขตประเทศไทยไปนอกราชอาณาจักรตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศนั้น ๆ และรวมตลอดถึงผู้ควบคุมพาหนะและคนประจำพาหนะแห่งรถไฟเช่นว่านั้นด้วย
14. รัฐมนตรีกำหนดให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรต้องมีเงินติดตัวแต่ไม่ให้ใช้บังคับแก่เด็กอายุต่ำกว่ากี่ปี
ก. 10 ปี ค. 15 ปี
ข. 12 ปี ง. 18 ปี
ตอบ ข. 12 ปี
มาตรา 14 รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรมีเงินติดตัว หรือมีประกันหรือจะยกเว้นภายใต้เงื่อนไขใด ๆ ก็ได้ทั้งนี้โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ประกาศตามวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่เด็กอายุต่ำกว่าสิบสองปี
15. คนต่างด้าวประเภทใดที่ไม่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ของคนต่างด้าวตามที่กำหนดไว้
ก. พนักงานฝ่ายกงสุลและลูกจ้างฝ่ายกงสุลซึ่งรัฐบาลต่างประเทศส่งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในราชอาณาจักร
ข. บุคคลซึ่งรัฐบาลต่างประเทศโดยความเห็นชอบของรัฐบาลไทยให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่หรือภารกิจในราชอาณาจักร
ค. หัวหน้าสำนักงานขององค์การหรือทบวงการระหว่างประเทศที่มีกฎหมายคุ้มครองการดำเนินงานในประเทศไทย
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
16. การกักตัวคนต่างด้าวของเจ้าพนักงานสามารถกักตัวไว้ได้ไม่เกินกี่ชั่วโมง
ก. 72 ชั่วโมง ค. 24 ชั่วโมง
ข. 48 ชั่วโมง ง. 12 ชั่วโมง
ตอบ ข. 48 ชั่วโมง
17. ในกรณีที่จำเป็นหากต้องมีการกักตัวคนต่างด้าวต่อ สามารถทำได้แต่ไม่เกินกี่วัน
ก. 30 วัน ค. 7 วัน
ข. 15 วัน ง. 3 วัน
ตอบ ค. 7 วัน
มาตรา 20 ในการที่พนักงานเจ้าหน้าที่กักตัวคนต่างด้าวผู้ใดไว้ตามมาตรา 19 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจกักตัวคนต่างด้าวผู้นั้นได้เท่าที่จำเป็นตามพฤติการณ์แห่งกรณี แต่ห้ามมิให้กักตัวไว้เกินสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาที่ผู้ถูกกักตัวมาถึงที่ทำการของพนักงานเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นจะยืดเวลาเกินสี่สิบแปด
ชั่วโมงก็ได้ แต่มิให้เกินเจ็ดวันและให้พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกเหตุจำเป็นที่ต้องยืดเวลาไว้ให้ปรากฏด้วย
18. พนักงานเจ้าหน้าที่มีคำสั่งเป็นหนังสือให้คนต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักรถ้าคนต่างด้าวผู้นั้นไม่พอใจในคำสั่ง คนต่างด้าวสามารถอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ให้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในกี่ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ได้ทราบคำสั่งของพนักงาน
ก. 72 ชั่วโมง ค. 24 ชั่วโมง
ข. 48 ชั่วโมง ง. 12 ชั่วโมง
ตอบ ข. 48 ชั่วโมง
มาตรา 22 ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าคนต่างด้าวซึ่งมีลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 12 เข้ามาในราชอาณาจักร ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้คนต่างด้าวผู้นั้นกลับออกไปนอกราชอาณาจักรได้ โดยมีคำสั่งเป็นหนังสือ ถ้าคนต่างด้าวผู้นั้นไม่พอใจในคำสั่ง อาจอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ เว้นแต่กรณีตามมาตรา 12 (1) หรือ (10) ห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด แต่ถ้ารัฐมนตรีมิได้มีคำสั่งภายในเจ็ดวันนับแต่วันยื่นอุทธรณ์ ให้ถือว่ารัฐมนตรีมีคำสั่งว่าคนต่างด้าวผู้นั้นไม่เป็นผู้ต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 12
การอุทธรณ์ ให้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาที่ได้ทราบคำสั่งของพนักงาน
19. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะที่เข้ามาในหรือที่จะออกไปนอกราชอาณาจักร
ก. ให้คนโดยสารหรือคนประจำพาหนะไปเสียจากพาหนะหรือสถานที่ที่จัดไว้
ข. ยื่นบัญชีคนโดยสารและบัญชีคนประจำพาหนะรวมทั้งผู้ควบคุมพาหนะต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
ค. ให้ความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
ง. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดจากคนโดยสารหรือคนประจำพาหนะดังกล่าวขัดขืนหรือก่อความวุ่นวายเจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะเป็นผู้เสีย
ตอบ ก. ให้คนโดยสารหรือคนประจำพาหนะไปเสียจากพาหนะหรือสถานที่ที่จัดไว้
มาตรา 27 เพื่อประโยชน์ในการตรวจ ให้เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะที่เข้ามาในหรือที่จะออกไปนอกราชอาณาจักรมีหน้าที่ปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) มิให้คนโดยสารหรือคนประจำพาหนะไปเสียจากพาหนะหรือสถานที่ที่จัดไว้ ด้วยความเห็นชอบของพนักงานเจ้าหน้าที่ จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เว้นแต่กรณีที่ผู้ควบคุมพาหนะและคนประจำพาหนะเป็นคนคนเดียวกัน ให้บุคคลนั้นออกไปจากพาหนะเพื่อไปแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 25 ในฐานะเป็นผู้ควบคุมพาหนะได้ถ้าคนโดยสารหรือคนประจำพาหนะดังกล่าวขัดขืนหรือก่อความวุ่นวายให้นำมาตรา 29 วรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการปฏิบัติการตามวรรคนี้ให้เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะเป็นผู้เสีย
(2) ยื่นบัญชีคนโดยสารและบัญชีคนประจำพาหนะรวมทั้งผู้ควบคุมพาหนะต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบที่กำหนดในกฎกระทรวงและภายในเวลาที่อธิบดีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ประกาศกำหนด
(3) ให้ความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
20. กรณีใดไม่ใช่กรณีที่คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว
ก. การศึกษาหรือดูงาน
ข. การเผยแพร่ศาสนาที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง
ค. การปฏิบัติงานด้านช่างฝีมือหรือผู้เชี่ยวชาญ
ง. การปฏิบัติงานด้านกรรมกร
ตอบ ง. การปฏิบัติงานด้านกรรมกร
มาตรา 34 คนต่างด้าวซึ่งจะเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวได้จะต้องเข้ามาเพื่อการดังต่อไปนี้
(1) การปฏิบัติหน้าที่ทางทูตหรือกงสุล
(2) การปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ
(3) การท่องเที่ยว
(4) การเล่นกีฬา
(5) ธุรกิจ
(6) การลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง
(7) การลงทุนหรือการอื่นที่เกี่ยวกับการลงทุนภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
(8) การเดินทางผ่านราชอาณาจักร
(9) การเป็นผู้ควบคุมพาหนะหรือคนประจำพาหนะที่เข้ามายังท่า สถานีหรือท้องที่ใน
ราชอาณาจักร
(10) การศึกษาหรือดูงาน
(11) การปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน
(12) การเผยแพร่ศาสนาที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง
(13) การค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์หรือฝึกสอนในสถาบันการค้นคว้าหรือสถาบันการศึกษาในราชอาณาจักร
(14) การปฏิบัติงานด้านช่างฝีมือหรือผู้เชี่ยวชาญ
(15) การอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
21. คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวระยะเวลาที่จะอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกินสามสิบวัน สำหรับกรณีใด
ก. การปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ
ข. การปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน
ค. การเล่นกีฬา
ง. การปฏิบัติงานด้านช่างฝีมือหรือผู้เชี่ยวชาญ
ตอบ ค. การเล่นกีฬา
22. คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวระยะเวลาที่จะอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 2 ปี สำหรับกรณีใด
ก. การปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ
ข. การปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน
ค. การลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง
ง. การปฏิบัติงานด้านช่างฝีมือหรือผู้เชี่ยวชาญ
ตอบ ค. การลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง
23. คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการท่องเที่ยวอนุญาตไม่เกินกี่วัน
ก. 30 วัน ค. 1 ปี
ข. 90 วัน ง. 2 ปี
ตอบ ข. 90 วัน
24. คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการเผยแพร่ศาสนาที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้องอนุญาตไม่เกินกี่วัน
ก. 30 วัน ค. 1 ปี
ข. 90 วัน ง. 2 ปี
ตอบ ค. 1 ปี
มาตรา 35 คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามมาตรา 34 อธิบดีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งอธิบดีมอบหมายจะอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรภายใต้เงื่อนไขใด ๆ ก็ได้
ระยะเวลาที่จะอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้กำหนดดังนี้
(1) ไม่เกินสามสิบวัน สำหรับกรณีตามมาตรา 34 (4) (8) และ (9)
(2) ไม่เกินเก้าสิบวัน สำหรับกรณีตามมาตรา 34 (3)
(3) ไม่เกินหนึ่งปี สำหรับกรณีตามมาตรา 34 (5) (10) (11) (12) (13) (14) และ (15)
(4) ไม่เกินสองปี สำหรับกรณีตามมาตรา 34 (6)
(5) ตามกำหนดระยะเวลาตามความจำเป็น สำหรับกรณีตามมาตรา 34 (1) และ (2)
(6) ตามกำหนดระยะเวลาที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนพิจารณาเห็นสมควรสำหรับกรณีตามมาตรา 34(7)
25. บ้าน หรือโรงแรมที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัยตั้งอยู่ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ใด
ก. กองตรวจคนเข้าเมือง
ข. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ค. ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ที่บ้าน
ง. ด่านตรวจคนเข้าเมือง
ตอบ ก. กองตรวจคนเข้าเมือง
26. เมื่อมีคนต่างด้าวเข้ามาพักโรงแรม ผู้จัดการโรงแรมต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในกี่ชั่วโมงนับแต่เวลาที่คนต่างด้าวเข้าอยู่อาศัย
ก. 48 ชั่วโมง ค. 12 ชั่วโมง
ข. 24 ชั่วโมง ง. 3 ชั่วโมง
ตอบ ข. 24 ชั่วโมง
มาตรา 38 เจ้าบ้าน เจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหสถาน หรือผู้จัดการโรงแรมซึ่งรับคนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเข้าพักอาศัย จะต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ที่บ้าน เคหสถาน หรือโรงแรมนั้นตั้งอยู่ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่เวลาที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ถ้าท้องที่ใดไม่มีที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองตั้งอยู่ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ณ สถานีตำรวจท้องที่นั้น
ในกรณีที่บ้าน เคหสถาน หรือโรงแรมที่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัยตามวรรคหนึ่งตั้งอยู่ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ กองตรวจคนเข้าเมือง
27. คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรรัฐมนตรีโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีมีอำนาจกำหนดจำนวนคนต่างด้าวสำหรับคนไร้สัญชาติมิให้เกินกี่คนต่อปี
ก. 200 คน/ ปี ค. 50 คน/ ปี
ข. 100 คน/ ปี ง. 30 คน/ ปี
ตอบ ค. 50 คน/ ปี
28. บุคคลดังข้อใดต่อไปนี้ไม่อยู่ภายใต้บังคับของประกาศกำหนดจำนวนคนต่างด้าว ซึ่งรัฐมนตรีประกาศที่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรเป็นรายปี
ก. คนต่างด้าวซึ่งเคยเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว และได้กลับเข้ามาในราชอาณาจักร
ข. หญิงซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิดและได้สละสัญชาติไทยในกรณีที่ได้สมรสกับคนต่างด้าว
ค. บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของหญิงซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิดไม่ว่าหญิงนั้นจะสละสัญชาติไทยในกรณีที่ได้สมรสกับคนต่างด้าวหรือไม่ก็ตาม
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 42 บุคคลดังต่อไปนี้ไม่อยู่ภายใต้บังคับของประกาศกำหนดจำนวนคนต่างด้าว ซึ่งรัฐมนตรีประกาศตามมาตรา 40
(1) คนต่างด้าวซึ่งเคยเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรแล้ว และได้กลับเข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา48 หรือมาตรา 51
(2) หญิงซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิดและได้สละสัญชาติไทยในกรณีที่ได้สมรสกับคนต่างด้าว
(3) บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของหญิงซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิดไม่ว่าหญิงนั้นจะสละสัญชาติไทยในกรณีที่ได้สมรสกับคนต่างด้าวหรือไม่ก็ตาม
(4) บุตรของบิดามารดาซึ่งเป็นคนต่างด้าวที่เกิดในระหว่างเวลาที่มารดาออกไปนอกราชอาณาจักร โดยมีหลักฐานการแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับเข้ามาอีกตามมาตรา 48 เมื่อเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรพร้อมกับบิดาหรือมารดา ซึ่งกลับเข้ามาอีกภายในเวลาที่กำหนดตามหลักฐานการแจ้งออกไปนอกราชอาณาจักรและบุตรนั้นอายุยังไม่เกินหนึ่งปี
29. ห้ามคนต่างด้าวกรณีใดเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
ก. เป็นผู้เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาของศาลไทยหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
ข. เป็นผู้ไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้
ค. เป็นผู้ที่มีอายุต่ำว่า12ปีโดยไม่มีเงินติดตัวมา
ง. ถูกทั้ง ก และ ข
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ข
มาตรา 44 ห้ามมิให้คนต่างด้าวผู้ใดเข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรถ้าปรากฏว่า
(1) เป็นผู้เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาของศาลไทยหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดลหุโทษหรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดที่ยกเว้นไว้ในกฎกระทรวง
(2) เป็นผู้ไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ เพราะกายพิการหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือมีโรคอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ความใน (2) มิให้ใช้บังคับแก่คนต่างด้าวผู้เป็นบิดา มารดา สามี ภริยา หรือบุตรของบุคคลซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักร และมีฐานะที่จะเลี้ยงดูซึ่งกันและกันได้
30. การยื่นคำขออนุญาตของคนต่างด้าวเพื่อมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรคนละไม่เกินกี่บาท
ก. คนละไม่เกิน 1,000 บาท
ข. คนละไม่เกิน 2,000 บาท
ค. คนละไม่เกิน 3,000 บาท
ง. คนละไม่เกิน 4,000 บาท
ตอบ ข. คนละไม่เกิน 2,000 บาท